ในปี 2565 เป็นปีที่โลกเพิ่งฟื้นตัวจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกที่ต้องเผชิญความท้าทาย หลายอย่างและความเปราะบาง ในช่วงแรกของการฟื้นตัว ทางเศรษฐกิจ ประกอบกับอัตราการเติบโตของโลกที่มีแนวโน้ม ชะลอตัวอันเนื่องมาจากสภาวะเงินเฟ้อที่สูง จนทําให้ธนาคาร กลางหลายประเทศต้องใช้นโยบายการปรับอัตราดอกเบี้ย ขึ้น ราคาพลังงานสูงขึ้นเนื่องจากจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อ และความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาความ ไม่มั่นคงทางอาหาร รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจของจีน จากการใช้มาตรการ Zero Covid และปัญหาฟองสบู่ของธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งผลจากการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญา สหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26) ทําให้นานาประเทศต่างประกาศเป้าหมาย มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) โดยลดการใช้พลังงานจาก Fossil Fuel ต่างๆ เช่น ถ่านหิน น้ํามัน และก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น และมามุ่งการใช้พลังงานทดแทน ต่างๆ ซึ่งปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดสภาวะแห่งความ ไม่แน่นอนสูงในทุกๆ ด้านทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจทั่วโลก

สําหรับประเทศไทยในปี 2565 ด้วยสถานการณ์ การระบาดโควิด-19 ที่มีแนวโน้มที่ร้ายแรงน้อยลงสอดคล้อง กับทั่วโลก ด้วยเหตุนี้รัฐบาลจึงได้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรและกําหนดให้ Covid-19 เป็น โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และจากการผ่อนคลายมาตรการ

ควบคุมการระบาดต่างๆ ทําให้ธุรกิจต่างๆ สามารถดําเนินงานได้ ใกล้เคียงปรกติมากขึ้น รวมทั้งการเปิดประเทศมากขึ้นส่งผลให้ ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจต่างๆ ก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็นลําดับ

บริษัทฯ ได้ดําเนินงานทั้งในระดับนโยบาย การดําเนิน ธุรกิจ และการปฏิบัติงาน ทั้งที่สํานักงานใหญ่และที่โครงการ ก่อสร้าง ด้วยมาตรการที่ผ่อนคลายลง อีกทั้งบริษัทได้พัฒนา แผนกลยุทธ์ธุรกิจอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลทําให้บริษัทมีรายรับรวมเติบโต เพิ่มขึ้นจากปีก่อน และกลับมามีผลกําไร หากแต่ยังมีปัญหา การส่งมอบพื้นที่ล่าช้า และการชะลองานอันเนื่องมาจากการ แก้ไขแบบก่อสร้างที่ทําให้งานบางโครงการไม่คืบหน้าตาม แผนทําให้รายได้และกําไรต่ํากว่าที่คาดการณ์ไว้นอกจากนี้ บริษัทยังติดตามนโยบายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จากทางภาครัฐ เช่น ด้านคมนาคม ทั้งทางบก ทางน้ํา และ ทางอากาศ รวมถึงการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) ทั้งนี้ ยังมี ความล่าช้า อันเนื่องมาจากการที่ภาครัฐต้องใช้เวลาในการ พิจารณาโครงการ รวมถึงโครงการขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่าง เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนหมดวาระ อย่างไรก็ตาม กลุ่มของการก่อสร้างภาครัฐที่เพิ่มขึ้นจากโครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคมนาคม ที่มีผลการประมูลแล้ว และ เริ่มการก่อสร้างหลายโครงการ เช่น รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ท่าเรือ โรงไฟฟ้า และสนามบิน ส่งผลให้แนวโน้ม และทิศทาง การก่อสร้างภาครัฐจะเติบโตในอัตราสูงในปีนี้เมื่อเทียบกับ ภาคเอกชน ทางบริษัท ก็ได้รับงานจากงานประมูลดังกล่าวหลายงาน ขณะที่การก่อสร้างภาคเอกชนเพิ่งเริ่มฟื้นตัวขึ้นในอัตราช้าๆ แต่ก็เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นและเตรียมที่จะเริ่มเปิดโครงการใหม่ในปีหน้า ทั้งในส่วนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยการพาณิชย์ และอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ

บริษัทฯ กําหนดวิสัยทัศน์ขององค์กรให้ “มุ่งมั่นก้าวหน้าอย่างผู้นําในงานก่อสร้าง พัฒนาก้าวไกลในธุรกิจที่มีอนาคตอย่าง มีคุณค่า อํานวยประโยชน์ต่อทุกส่วนอย่างใส่ใจและรับผิดชอบ” โดยในปีนี้ได้ประสบผลสําเร็จในการประมูลงานใหม่ และรักษา ระดับงานรอส่งมอบ (Backlog) ได้ใกล้เคียงปี 2564 เพื่อให้มีความสามารถในการสร้างรายได้ไปอีกสามปีข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องฝ่าฟันในมรสุมวิกฤตในช่วงเวลานี้ คณะกรรมการบริษัทมีปณิธานและมุ่งมั่นพยายามที่จะสร้างการเติบโตขององค์กร อย่างมีคุณภาพและต่อเนื่องโดยให้มีกําไรที่มั่นคงในระยะยาว เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจโดยมูลค่าเพิ่มให้กับ ผู้ถือหุ้น ผู้มีส่วนได้เสีย และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และสร้างคุณค่าให้กับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ รวมทั้งมีความตั้งใจที่จะ ดําเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้หลักการกํากับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับ ในการกํากับดูแลกิจการเป็นระดับ 4 ดาว (Corporate Governance Rating 4 Star) และยังคงมุ่งหมายไปสู่ระดับที่สูงขึ้น

สําหรับทิศทางของบริษัทฯจะยังคงดําเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเป็นหลัก และเน้นรับโครงการขนาดใหญ่จากภาครัฐ ที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในขณะเดียวกัน ก็จะติดตามงานกับภาคเอกชนที่กําลังฟื้นตัว ทั้งในประเทศ และในประเทศเพื่อนบ้าน กลุ่ม CLMV ซึ่งกําลังมีการเจริญเติบโตสูง โดยคํานึงถึงการบริหารจัดการต้นทุน ราคาวัสดุและแรงงานเพื่อให้เพียงพอความต้องการ และบริษัทฯได้มีการดําเนินธุรกิจการผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตสําเร็จรูป ที่มีการนําเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากยุโรป และขยายกําลัง การผลิตสําหรับการรองรับการขยายตัวของตลาดในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) จะเน้นกลยุทธ์การมุ่งเข้าสู่ช่องว่างทางการตลาดที่ยังมีความต้องการและอัตราการเติบโตที่ดี ในปี 2566 บริษัทฯ จะเดินหน้าพัฒนาและปรับปรุงองค์กรให้มีศักยภาพในระดับสากลเพื่อเสริมสร้างรากฐานให้แข็งแกร่ง รองรับการฟื้นตัว ของเศรษฐกิจ และการแข่งขันที่จะเข้มข้นขึ้น โดยบริษัทจะส่งเสริมพัฒนาจุดแข็ง ปรับปรุงกระบวนการทํางานในด้านต่างๆ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ทั้งในการก่อสร้างการผลิต และการจัดการ รวมถึงการบริหารความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพิ่มขึ้น มีการควบคุมต้นทุนและคุณภาพของวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงต้นทุนทางด้านแรงงาน พัฒนาและปรับปรุง ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทํางานให้ดีขึ้น เพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐานที่สามารถตอบสนองความพึงพอใจสูงสุด ของลูกค้า รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรซึ่งถือเป็นทรัพยากรอันมีค่าและหัวใจสําคัญของการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องทั้งความรู้ทางด้านเทคนิคและการบริหารจัดการ รวมทั้งปลูกจิตสํานึกในความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

คณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร พนักงาน และบริษัทในเครือ ขอขอบพระคุณท่านผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ คู่ค้า ลูกค้า ผู้เกี่ยวข้อง ทุกฝ่าย ตลอดจนประชาชนและสังคมที่ได้ให้ความไว้วางใจ และสนับสนุนการดําเนินงานของบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา พวกเราหวัง เป็นอย่างยิ่งว่าจะยังคงได้รับเกียรติ ความไว้วางใจ และการสนับสนุนที่ดีเช่นนี้ต่อไป และขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นว่าพวกเราจะสาน ต่อความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการดําเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ รัดกุม โปร่งใส ยึดมั่นในหลักบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และเพื่อเป็นองค์กรที่เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนควบคู่กับการเจริญเติบโต ของประเทศตามวิสัยทัศน์ที่มุ่งหมายไว้ ส่วนธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์

นายประเสริฐพันธุ์ พิพัฒนกุล

ประธานกรรมการ, กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ, ประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการ และประธานกรรมการจรรยาบรรณธุรกิจ